ภูชี้ฟ้า จังหวัดเชียงราย




วนอุทยานภูชี้ฟ้า - ภูชี้ฟ้า อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าแม่อิงฝั่งขวาและป่าแม่งาว ท้องที่บ้านร่มฟ้าทอง หมู่ที่ 9 และบ้านร่มฟ้าไทย หมู่ที่ 10 ตำบลปอ อำเภอเวียงแก่น จังหวัดเชียงราย อยู่ในเขตพื้นที่ป่าอนุรักษ์ หรือพื้นที่ป่าโซน C ตามแผนที่ ZONING เนื้อที่ที่สำรวจและเห็นควรจัดตั้งเป็นวนอุทยาน ประมาณ 2,500 ไร่ โดยกรมป่าไม้ได้มีคำสั่งจัดตั้งเป็นวนอุทยานเมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2541
ลักษณะภูมิประเทศ
พื้นที่วนอุทยานเป็นยอดเขาสูงในเทือกเขาดอยผาหม่น ติดชายแดนไทย - สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว สูงจากระดับน้ำทะเลตั้งแต่ 1,200 เมตร ถึง 1,628 เมตร จุดสูงสุดคือ บริเวณจุดชมวิว มีความลาดชันเฉลี่ยทั่วพื้นที่ประมาณ 40 เปอร์เซนต์
ลักษณะภูมิอากาศ
อากาศบนภูเขาจะค่อนข้างเย็นแต่ฤดูกาลจะเป็นแบบมรสุมเมืองร้อน โดยได้รับอิทธิพลจากลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ในช่วงฤดูฝน และลมตะวันออกเฉียงเหนือในช่วงฤดูหนาว แบ่งเป็น 3 ฤดู คือ ฤดูร้อน เริ่มตั้งแต่เดือนมีนาคม ถึง พฤษภาคม ฤดูฝน เริ่มตั้งแต่เดือนมิถุนายน ถึง ตุลาคม และฤดูหนาว เริ่มตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน ถึง กุมภาพันธ์
พืชพรรณและสัตว์ป่า
เป็นป่าดิบเขา ยกเว้นบนยอดภูชี้ฟ้าเป็นทุ่งหญ้าประมาณ 300 ไร่ ชนิดพันธุ์ไม้ที่สำคัญได้แก่ เสี้ยวดอกขาว ก่อเดือย ก่อก้างด้าง ก่อแดง ก่อน้ำ ก่อแป้น ก่อสีเสียด อบเชย กำยาน หว้า เหมือด สารภี จำปาป่า จำปีป่า พันธุ์ไม้พื้นล่าง ได้แก่ เอื้องดิน หญ้าคา หญ้าแฝก หญ้าหางหนู หญ้าสามคน หญ้าไม้กวาด หญ้าเลา มอส เฟิร์นชนิดต่าง ๆ
สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ที่พบเห็นได้แก่ เก้ง กระจง หมูป่า อีเห็น ชะมด เสือไฟ เสือ ปลา แมวป่า หมูหริ่ง บ่าง เม่น พังพอน ค้างคาว กระต่ายป่า เพียงพอน กระรอกบิน กระรอก กระแต
นกที่พบเห็นได้แก่ นกเขา เหยี่ยว นกกระสา นกอินทรี นกฮูก นกปรอด นกแขวก นกเค้าแมว นกแสก นกกระปูด นกเอี้ยง นกกางเขน นกขมิ้น นกกระทาดง นกกวัก นกกิ้งโครง นกขุนทอง นกแซว นกนางแอ่น นกยูง นกตะขาบ นกหัวขวาน นกดุเหว่า ไก่ป่า ไก่ฟ้า
สัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ ที่พบเห็นได้แก่ เต่า กบ เขียด คางคก ปาด อึ่งอ่าง
สัตว์เลื้อยคลาน ที่พบเห็นได้แก่ งูชนิดต่าง ๆ ตะกวด ลิ่น ตุ๊กแกป่า กิ้งก่าบิน กิ้งก่า จิ้งเหลน แย้ ตะขาบ แมลงป่อง กิ้งกือ

การเดินทางสู่ ภูชี้ฟ้า - วนอุทยานภูชี้ฟ้า

ภูชี้ฟ้า อยู่ห่างจากอำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย ประมาณ 144 กิโลเมตร การเดินทางจากอำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย ไปยัง ภูชี้ฟ้า ได้ตามแนวเส้นทางดังนี้

จากอำเภอเมืองเชียงรายไปอำเภอเทิง ผ่านสามแยกโรงเรียนภูซางวิทยาคม บ้านสบบงและสามแยกบ้านม่วงชุมแล้วเดินทางต่อไป ก็จะถึงภูชี้ฟ้า

ไปตามทางหลวงจังหวัดสาย 1093 ผ่านน้ำตกภูซาง ด่านบ้านฮวก ศูนย์ส่งเสริมเกษตรที่สูงดอยผาหม่นเส้นทางสายนี้เป็นทางลาดยาง 104 กิโลเมตรและทางดินลูกรัง 40 กิโลเมตร ผ่านจุดท่องเที่ยวสำคัญ 3 แห่งได้แก่
น้ำตกภูซาง (อุทยานแห่งชาติภูซาง) และด่านบ้านฮวก หมู่บ้านชายแดนไทย - สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ศูนย์ส่งเสริมเกษตรที่สูงดอยผาหม่น ทดลองและส่งเสริมปลูกไม้ดอกเมืองหนาว เช่น ทิวลิป ลิลลี่

จากภูชี้ฟ้าสามารถเดินทางไปยังดอยผาตั้ง อำเภอเวียงแก่น จังหวัดเชียงราย โดยอยู่ห่างออกไปตามเส้นทางหลวงจังหวัดสาย 1093 เป็นระยะทาง 25 กิโลเมตร และจากดอยผาตั้งยังสามารถเดินทางต่อไปยังอำเภอเชียงของ อำเภอเชียงแสน และอำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงรายได้อีกด้วย

ดอยแม่ตะมาน

ช่วงฤดูหนาวจากที่พักในช่วงเช้าจะมองเห็นทะเลหมอกหนามอง และเห็นเทือกดอยหลวงเชียงดาวสูงเหนือทะเลหมอกได้อย่างชัดเจน กลางคืนจะเห็นดาว เต็มท้องฟ้าและแสงระยิบระยับจากเมืองเชียงดาว มีแปลงปลูกดอกไม้นาๆชนิดโดยเฉพาะดอกฝิ่น การไปเยี่ยมชมควรติดต่อสถานีวิจัยเกษตรที่สูงป่าเกี๊ยะดอยเชียงดาว

                                       

หน่วยจัดการต้นน้ำแม่ตะมาน ตั้งอยู่ในท้องที่ตำบลแม่นะ อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ นักท่องเที่ยวสามารถขอแวะเข้าเยี่ยมชมทิวทัศน์ที่หน่วยได้ หากต้องการค้างคืนสามารถติดต่อขอกางเต้นท์ได้ที่ลานกางเต้นท์ของสถานีวิจัยเกษตรที่สูง มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ที่อยู่ติดกัน



สถานีวิจัยเกษตรที่สูงป่าเกี๊ยะดอยเชียงดาว เป็นหน่วยงานของคณะเกษตร ศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ อยู่ในทำเลที่มองเห็นเทือกดอยหลวงเชียงดาวได้อย่างชัดเจนและสวยงาม มีนกหลายชนิดที่เห็นอยู่ตลอด เช่น นกเขียวก้านตองสีส้ม นกติ๊ดใหญ่ นกไต่ไม้หน้าผากกำมะหยี่ นกกะรองทองแก้มขาว และ อีกหลายชนิด

ทะเลหมอก ดอกไม้งาม

ในวันที่ม่านหมอกสลายไปพร้อมกับแสงสีทองของพระอาทิตย์เบื้องหน้าเป็นยอดดอยหลวงเชียงดาว ข้างๆ เป็นต้นซากุระสีหวานกับสายลมเย็นยามเช้าช่วยทำให้ห้วงเวลาบนสันป่าเกี๊ยะ…ยิ่งใหญ่และน่าจดจำ


8 สถานที่ท่องเที่ยว ในเมืองสามหมอก

สถานที่ท่องเที่ยวของแต่ละอำเภอในจังหวัดแม่ฮ่องสอน ก็จะมีดีแตกต่างกันไป ดิฉันจะเลือกสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าประทับใจบางแห่งมาเล่าให้ฟังกัน


เริ่มที่ บ้านรวมไทยหรือ ปางอุ๋ง ที่หลายคนบอกว่าสวยนักสวยหนา ระยะทางจากตัวเมืองไปปางอุ๋งก็ประมาณ 40 กิโลเมตรใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง ความสวยงามของปางอุ๋งอยู่ที่ พระอาทิตย์ขึ้นและบรรยกาศยามเช้าท่ามกลางบึงนำ้ขนาดใหญ่ กับสายหมอกหนาทึบ สวนสนสามใบที่ริมบึงและอากาศที่หนาวเย็นซึ่งหลายคนบอกว่านี่คือสวิตเวอร์แลนด์เมืองไทย  และเป็นสถานที่ ๆ น่าไปนอนกางเต็นท์สูดอากาศบริสุทธิ์เป็นยิ่งนัก


จากปางอุ๋งก็ไปต่อกันที่บ้านรักไทยอีก 6 กิโลเมตร ที่นี่เป็นแหล่งขายใบชาและผลไม้แช่อิ่มมากมาย หมู่บ้านจีนฮ่อลูกหลานนายพลต้วนแห่งก๊กมินตั๋ง หมู่บ้านแห่งนี้มีการปลูกชา อยู่เขตชายแดนไทยพม่า



แห่งที่สามเราก็มาที่อำเภอปาย ที่อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง ซึ่งมีพื้นที่ครอบคลุมอยู่ในท้องที่อำเภอแม่แตงจังหวัดเชียงใหม่ และอำเภอปายจังหวัดแม่ฮ่องสอน จุดเด่นที่น่าสนใจคือจุดชมวิวบริเวณห้วยน้ำดัง (ดอยกิ่วลม) ตั้งอยู่ตำบลกึ้ดช้าง อำเภอแม่แตง เป็นที่ตั้งของหน่วยพัฒนาต้นน้ำที่ 2 (ห้วยน้ำดัง) เป็นจุดชมวิวที่สวยงามและมีชื่อเสียงมาก นักท่องเที่ยวจะได้ชมทะเลหมอกในช่วงเช้าตรู่และชมพระอาทิตย์ขึ้นที่งดงามมาก อีกจุดหนึ่งคือจุดชมวิวดอยช้าง อยู่ทางเหนือของห้วยน้ำดัง เป็นจุดที่สามารถมองเห็นสภาพธรรมชาติของทิวเขาอันสลับซับซ้อน และทะเลหมอกในยามเช้าตรู่ ที่นี่จะมีน้ำตกห้วยน้ำดัง เป็นน้ำตกที่เกิดจากลำห้วยน้ำดังมีโขดหินมากมาย น้ำตกสูงประมาณ 50 เมตร กว้าง 10 เมตร เป็นน้ำตกที่สวยงามมาก

ที่ท่องเทียวลำดับที่ 4 ปาย เป็นอำเภอขนาดเล็กทางตอนเหนือของจังหวัดแม่ฮ่องสอน เป็นที่รู้จักกันดีในหมู่นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติที่เดินทางมาเที่ยวชมความงามตามธรรมชาติ



มาที่ลำดับที่ 5 วัดพระธาตุดอยกองมูนับเป็นวัดที่มีความสำคัญมากที่สุดวัดหนึ่งในแม่ฮ่องสอน เป็นศูนย์รวมศรัทธาของชาวเมือง กล่าวกันว่าใครที่เดินทางมาแม่ฮ่องสอนแล้วไม่ได้ไปที่วัดนี้ถือว่ายังมาไม่ ถึงแม่ฮ่องสอน นอกจากจะเป็นศาสนสถานที่สำคัญแล้วข้างบนวัดยังเป็นจุดชมวิวเมืองแม่ฮ่องสอน ที่สวยงามอีกด้วย หลายคนเคยเดินทางมาเยือนแม่ฮ่องสอนและเคยขึ้นไปนมัสการพระธาตุดอยกองมูซึ่ง เป็นวัดคู่บ้านคู่เมือง ตั้งอยู่บนยอดเขาติดตัวเมืองแม่ฮ่องสอน เมื่อขึ้นไปที่วัดนี้เราสามารถมอง เห็นทิวทัศน์ของเมืองแม่ฮ่องสอนได้อย่างถนัดตา โดยเฉพาะเมื่อมองลงมาจะเห็นวัดต่างๆ ในเมืองอยู่ไม่ห่างจากกัน วัดแต่ละวัดมีลักษณะโดดเด่นทางสถาปัตยกรรมคือ หลังคาจะซ้อนเป็นชั้นหลายชั้นลดหลั่นลงมาและพระเจดีย์ทรงเครื่องแบบมอญ ประดับลายปูนปั้นศิลปกรรมแบบนี้เราเรียกว่า ศิลปะไทใหญ่ผสมพม่า วัดพระธาตุดอยกองมูนับเป็นวัดที่มีความสำคัญมากที่สุดวัดหนึ่งในแม่ฮ่องสอน เป็นศูนย์รวมศรัทธาของชาวเมือง กล่าวกันว่าใครที่เดินทางมาแม่ฮ่องสอนแล้วไม่ได้ไปที่วัดนี้ถือว่ายังมาไม่ ถึงแม่ฮ่องสอน


 ลำดับที่ 6 ทุ่งดอกบัวตองดอยแม่อูคอ ห่างจากที่ทำการอำเภอขุนยวม 25 กิโลเมตร เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติอีก แห่งหนึ่งของจังหวัดแม่ฮ่องสอน มีลักษณะเป็นทิวเขาเขียวสูงขึ้นสลับด้วยทิวทุ่งดอกบัวตอง เหลืออร่ามทั่วพื้นเขา มีพื้นที่ประมาณ 500 กว่าไร่ เมือ่เดินขึ้นไปยังดอยแม่อูคอแล้ว นักท่องเที่ยวสามารถชมวิวได้ทั่ว มีศาลาชมวิวที่ สร้างขึ้นไว้รองรับนักท่องเที่ยวอยุ่หลายแห่ง ซึ่งจากศาลาชมวิวสามารมองเห็นทุ่งดอกบัวตองได้ 360 องศา นอกจากนี้ในระหว่างทา่งชมทุ่งดอกบัวตอง ตรงจุดพักรถข้างทางใกล้หมู่บ้านก่อนถึงดอยแม่อูคอประมาณ 2 กิโลเมตรนักท่องเที่ยว


ลำดับที่ 7 น้ำตกแม่สุรินทร์ห่างจากทุ่งดอกบัวตองประมาณ 12 กิโลเมตร เป็นน้ำตกที่สูงที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศไทย ประมาณ 220 เมตร ตัวน้ำตกมีเพียงชั้นเดียว ทำให้สายน้ำที่ไหลลงเบื้องล่างดูยิง่ใหญ่และสวยงามมาก สามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปี แต่ช่วงที่สวยที่สุด คือ เดือนพฤศจิกายน- เดือนธันวาคม นักท่องเที่ยวสามารถชมความงามของน้ำตกได้ ทั่วจาก บริเวณจุดชมวิวซึ่งทางอุทยานฯน้ำตกแม่สุรินทร์ได้จัดไว้ให้ หรืือสามารถสัมผัสตัวน้ำตกอย่างใกล้ชิด ก็สามารถ เลือกเดินป่าศึกษาธรรมชาติ สามารถติดต่อได้ที่หน่วยพิทักษ์อุทยานฯน้ำตกแม่สุรินทร์ โทร 053 612 993
081 724 7275


มาถึงลำดับที่ 8 หมู่บ้านสันติชล ตั้งอยู่ในตำบลเวียงใต้ อำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน อยู่ห่างจากตัวอำเภอปาย 4.5 ก.ม. เป็นชุมชนท่องเที่ยวที่นำเสนอเอกลักษณ์ วัฒนธรรม ของชาวจีนยูนนานอันเป็นรากฐานของ ชุมชนมาเป็นจุดดึงดูด นักท่องเที่ยว และยังใช้กิจกรรมท่องเที่ยวเป็นเครื่องมือของการพัฒนาชุมชนไปพร้อมกัน ทั้งด้านการฟื้นฟู อนุรักษ์และสืบสานวัฒนธรรมจีนยูนนาน การพัฒนาอาชีพ ที่ส่งเสริมชีวิตความเป็นอยู่ของคนในชุมชน เมื่อเข้ามาในบรรยากาศในหมู่บ้านจำลอง  เหมือนเราได้ก้าวเข้ามาสู่ ประเทศจีน เนื่องจากลักษณะของการตกแต่ง สถานที่จะเป็นสไตล์จีนยูนานทั้งหมด สิ่งก่อสร้างที่โดดเด่นเมื่อก้าวย่างเข้าไปในเขตของศูนย์วัฒนธรรม คือ มังกรสีสดพันอยู่กับเสา ซี่งตั้งอยู่บนเนินหินสีเข้ม ด้านหน้าของเนินหินมีอักษรภาษาจีน เมื่อเดินเข้ามาจะพบกับ บ้านดินสีส้มพลาสเทลสดใสตัดกับสีท้องฟ้าใสตั้งเรียงรายอยู่  มีร้านของที่ระลึก เช่น รองเท้า เสื้อผ้า ชา  ผลไม้ดองและอบแห้ง อาหารแปรรูปชนิดต่างๆฯจำหน่ายแก่นักท่องเที่ยว และมีร้านอาหารจีนยูนานให้บริการด้วย อาหารที่เลี่ยงชื่อ  ขาหมู หมั่นโถว ที่รสชาติอร่อย


เขาสก กุ้ยหลินเมืองไทย

การเดินทางท่องเที่ยวไปในสถานที่ท่องเที่ยวที่ต่างๆ เป็นความฝันของใครหลายคน ซึ่งความชอบของแต่ละคนย่อมแตกต่างกันไป บางคนชอบไปในที่มีแสง สี เสียง ผู้คนมากหน้าหลายตา ในขณะที่อีกหลายคนใช้เวลาในช่วงวันหยุดพักผ่อนในมุมสงบ เรียบง่าย


หากคุณรักความสงบ แต่มีเวลาจำกัดเฉพาะในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ แนะนำให้ลองมาสัมผัสบรรยากาศสถานที่ท่องเที่ยวเมืองจีนในเมืองไทย (ไม่ต้องแปลกใจไป เราพูดไม่ผิด) ที่คุณจะได้พักผ่อนท่ามกลางสายน้ำอันเย็นสดชื่น พร้อมสูดกลิ่นหอมจากดอกไม้นานาพรรณที่รายรอบ แบบไม่ต้องควักกระเป๋าไปเที่ยวไกลถึงเมืองจีนจริงๆ เพราะวันนี้เราจะพามาสูดอากาศสดชื่นกัน ณ อุทยานแห่งชาติเขาสก จังหวัดสุราษฎร์ธานี รับรองว่าใครหลงใหลการเดินป่า หรือการล่องเรือชมวิว ถูกใจแน่นอน
สถานที่ท่องเที่ยวอุทยานแห่งชาติเขาสก จังหวัดสุราษฎร์ธานี ส่วนหนึ่งของป่าดิบชื้นผืนใหญ่ที่สุดในภาคใต้ ลักษณะของที่นี่เต็มไปด้วยภูเขาหินปูนสลับซับซ้อน มีหุบเขาลึก ร่องลำธาร ถ้ำ และน้ำตกมากมาย อุดมสมบูรณ์ด้วยพรรณไม้หายากระดับโลกหลายชนิด เช่น ปาล์มหลังขาว หมากพระราหู กระพ้อสี่สิบ ฯลฯ และมีนกป่าอาศัยอยู่กว่า 155 ชนิด รายล้อมอยู่ใจกลางผืนป่าเขาสก มีสถานที่ท่องเที่ยวโดดเด่นสุด คือ เขื่อนรัชชประภา (เขื่อนเชี่ยวหลาน) ซึ่งเกิดจากการกั้นลำคลองแสง จนเกิดทัศนียภาพของทะเลสาบขนาดใหญ่กว่า 1 แสนไร่ ที่นี่คุณจะได้สนุกกับการท่องเที่ยวทั้งทางบก และทางน้ำอย่างเต็มที่
ไม่ว่าจะเป็น การเดินป่า ดูสารพันนกสวย หรือ เที่ยวถ้ำปะการัง ล้วนได้บรรยากาศภายใต้ป่าดงดิบอันเขียวชอุ่มภายใต้ขุนเขาสูงล้ำค้ำฟ้า ประดุจภูผาปราการ ซึ่งเป็นแหล่งกำเนิดของพืชพันธุ์เฉพาะถิ่นหลากหลายของแดนใต้ ผู้ที่ชื่นชอบการเดินป่ามีกิจกรรมเดินเท้าเข้าชมน้ำตกต่างๆ อันเกิดจากลำน้ำในคลองสกไหลลดหลั่นเป็นชั้นๆ อย่างสวยงาม และพลาดไม่ได้กับการชมดอกบัวผิด ดอกไม้ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ที่คุณจะหาชมได้มากกว่าที่อื่นๆ ทำให้สถานที่ท่องเที่ยวเขาสกมีชื่อเสียงในเรื่องของกิจกรรมท่องเที่ยวเดินป่าชมบัวผุดเป็นที่สุด


เปลี่ยนบรรยากาศจากเดินเท้า มาเต็มอิ่มกับการพักผ่อนด้วยการล่องเรือชมวิว นอนล่องแพ ไปกับสายน้ำใส เห็นตัวปลาและเงาสะท้อนของต้นไม้สีเขียว บนพื้นที่ 500 ไร่ ของผืนน้ำอันกว้างใหญ่ด้วยความลึกของน้ำ ประกอบกับสีของตะไคร่น้ำเบื้องล่าง ทำให้สีน้ำในเขื่อนมีสีเข้มเหมือนสีมรกต คล้ายน้ำทะเล และที่สร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับนักท่องเที่ยวที่สุดเห็นจะเป็น บรรยากาศสถานที่ท่องเที่ยวเกินคำบรรยายบริเวณเหนือเขื่อนและอ่างเก็บน้ำของอุทยานที่ร่มรื่นด้วยต้นไม้ใหญ่ รวมทั้งภูเขาหินปูนรูปร่างต่างๆ แปลกตาที่อยู่ในเขื่อน ทั้งหมดนี้ทำให้ผู้มาเยือนตะลึงกับสิ่งที่ธรรมชาติสร้างขึ้นมา และเพราะท่ามกลางผืนน้ำสีเขียวที่ดูอบอุ่นเย็นสบายของเขาสกแห่งนี้ คล้ายกับภูมิประเทศที่เมืองกุ้ยหลิน ประเทศจีน จึงไม่น่าแปลกใจที่ใครๆ ต่างพูดกันเป็นเสียงเดียวว่า ที่นี่คือ กุ้ยหลินเมืองไทย อย่างหาคำอื่นมาเปรียบเปรยไม่ได้ รับรองเลยว่าใครที่มีโอกาสได้ล่องเรือชมวิวเหนือเขื่อนรัชชประภาแห่งนี้แล้วก็ต้องไม่ลืมภาพแห่งความประทับใจแน่นอน

ในฤดูร้อนหากใครอยากสัมผัสกับบรรยากาศสถานที่ท่องเที่ยวแบบเมืองกุ้ยหลิน ชมดอกบัวผุด ขอแนะนำว่าลองเลือกทริป นั่งเรือชมวิว นอนแพเหนือเขื่อนรัชชประภา และการเดินป่าที่อุทยานแห่งชาติเขาสกแห่งนี้สักครั้ง แล้ววันหยุดสุดสัปดาห์ของคุณจะพิเศษกว่าครั้งใดๆ


ฤดูที่เหมาะสมกับการไปเที่ยว : ระหว่างเดือนธันวาคม - เมษายน
การเดินทาง : จากตัวจังหวัดสุราษฎร์ธานี ใช้เส้นทางหมายเลข 4 ไปราว 60 กิโลเมตร แล้วเลี้ยวขวาเข้าสู่อำเภอบ้านตาขุน ตรงสู่เขื่อนรัชชประภา และอุทยานแห่งชาติเขาสก รวมระยะทางประมาณ 100 กิโลเมตร

สอบถามรายละเอียดสถานที่ท่องเที่ยวเพิ่มเติม ติดต่อที่ ททท.ภาคใต้ เขต 5 โทร. 077 288 818-9